ปัญญาประดิษฐ์กับอุตสาหกรรม

การนำ AI มาช่วยพัฒนาการเรียนรู้ ในมุมมองอุตสาหกรรม AI กับอุตสาหกรรม ของเด็กจบใหม่เป็นยังไง เด็กที่จบไปแล้วจำเป็นต้องมีความรู้เบื้องต้นอะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน เกี่ยวกับAI ถึงจะสามารถทำงาน หรือประกอบธุรกิจในด้านอุตสาหกรรมได้

เพื่อให้เห็นภาพรวมของชีวิตโปรแกรมเมอร์ จะขอพูดถึงนิยามของ Computer science ว่าคืออะไร เกี่ยวข้องอะไรกับสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือสาขาวิทยาการข้อมูลเรียนไปแล้วจบไปทำอะไร โดยมีหลักการเดียวสำหรับการเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ คือ คอมพิวเตอร์ทำอะไรได้บ้าง ผลลัพธ์สุดท้ายคือจะเห็นว่า เราทุกคนมีสมาร์ทโฟนอยู่ในมืออย่างน้อย 1 เครื่อง เมื่อเรารู้ว่าคอมพิวเตอร์ทำอะไรบ้าง สิ่งหนึ่งที่คอมพิวเตอร์ทำคือ ประมวลผมข้อมูล (Process Data) รับข้อมูลเข้ามา ทำการประมวลผล (Process) แล้วให้ผลลัพธ์เป็น Information ออกไป ซึ่ง Information ต่างกับ Data ตรงที่ Information นั้นมีความหมาย ถ้าเราเข้ามาถึงส่วนที่เป็น Data นั่นคือ เราเข้ามาสู่ส่วนที่เป็น Data Science

Data Science เกิดขึ้นประมาณปี 2012 โดย Professor ที่ นิวยอร์ก ใช้คำนี้ขึ้นมาครั้งแรก หลังจากนั้นเป็นต้นมา Data Science และ Computer science มีแนวคิด (Concept) เดียวกันคือ ข้อมูล (Data) เอาไปทำอะไรได้บ้าง โดยคนที่ใช้ Data Science จริงๆคือ AI ซึ่งเป็นตัวที่จะประมวลผลข้อมูล (Process Data) เพื่อให้เกิดเป็นความหมายที่ตีความได้ จะเห็นว่าปัจจุบันเริ่มเป็นโปรแกรม ไม่ใช่ มนุษย์ เมื่อก่อนใช้มนุษย์ในการวิเคราะห์ (Analyze) ประมวลผลข้อมูล (Process Data) เพื่อให้ได้องค์ความรู้ใหม่ๆ แต่ปัจจุบัน AI สามารถสกัดองค์ความรู้จากข้อมูลแล้วพอได้ข้อมูลก็นำไปสู่การวางแผนหรือการทำนาย และในปัจจุบันนี้การควบคุมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เริ่มใช้ข้อมูลเป็นตัวตัดสินใจ ยกตัวอย่างเคส McDonald ของการสั่งแบบ drive-thru คือทันทีที่เราจอดรถสั่งอาหาร ข้อมูลที่เราสั่งอาหารจะไหลไปยัง Data center ที่ regional ทำให้เรารู้ได้ว่า ในฤดูกาลนี้เราจะขาย Burger angus ได้เท่าไหร่ และอย่าลืมว่าเนื้อ Angus ไม่ได้มาจากประเทศไทย โดยข้อมูลการสั่งซื้อในฤดูกาลต่างๆ เราจะรู้เลยว่าในปีหน้าจะเป็นเท่าไหร่ เขาก็ไปสั่งให้เลี้ยงวัวที่ประเทศอังกฤษ

ภาพรวมของประเทศเรา เราจะเห็นว่า เป็นประเทศที่ซื้อมาขายไปอยู่ แต่ในอุตสาหกรรมโลกจริงๆ เราจะเห็นการแข่งขันทางเศรษฐกิจ จะมีแบรนด์ใหญ่ๆเข้ามาในประเทศไทยเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น IKEA H&M ZARA Unilever แบรนด์พวกนี้มี Global supply chain หมดเลย แต่ก็จะเห็นว่า IIKEA ไม่ได้มีป่ามากพอที่จะสร้างเฟอร์นิเจอร์เลี้ยงโลก ไม่ได้มีดินที่ดีเหมือนลำปางเพื่อจะผลิตถ้วย จานให้เรา ถ้าเราไปดูแบรนด์ของ IKEA เราจะเห็นว่า จานมาจากลำปาง แก้วไวน์มาจากจีน และเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาจากปะเทศสวีเดน ทีนี้สิ่งที่เขาทำคือ เขามีเครือข่าย และควบคุมข้อมูลทุกอย่างว่า จะหาของจากไหน เพื่อส่งให้ใคร ท้ายที่สุดเขาครองโลกเฟอร์นิเจอร์ของโลก กล่าวคือ IKEA ครบเครื่องด้วย Information ล้วนๆ

Thailand 4.0 คืออะไร ย้อนในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เราชนะกันด้วยเราใช้แรงงานม้าเป็นหลัก แล้วสักพักหนึ่งค้นพบว่า Step 1 เรามีเครื่องจักไอน้ำ รถไฟ ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสงครามโลกในการแย่งทรัพยากรข้ามประเทศได้ Step 2 เริ่มมี Industrial Revolution เริ่มผลิตน๊อต ผลิตเครื่องจักรเป็นรถถังได้ ใช้สู้กันในสงครามถัดมา Step 3 Robotic ปัจจุบัน Germany France ทำการ deploy กันเยอะมาก เมื่อก่อนเราเชื่อว่า การที่มี Robot เข้ามา แล้วจะทำให้คนตกงานปรากฎ ว่า ถ้าเทียบกัน 3 ประเทศ England Germany France ประเทศที่มีการใช้หุ่นยนต์มากที่สุดคือ Germany แต่มี Employment rate ต่ำสุด เพราะว่าทันทีที่เกิด Robotic จะเกิดการจ้างงานใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายมาก เพราะเราใช้ Innovation ในการสร้างตลาด ทำให้ไม่มีขอบเขตในการสร้างงาน เกิดการจ้างงานแนวใหม่มากขึ้น Step 4 Mobile IoT Robotic เกิด Information ไหลถึงกัน ทุกวันนี้ Germany France ทันทีที่เครื่องจักรเครื่องหนึ่งพัง จะทำการยกเลิกการสั่งสินค้าของ supplier อีกเจ้าหนึ่งเรียบร้อยโดยทำทุกอย่างแบบ Automated ไม่ต้องผ่านคน

เมื่อเรารู้จักสารสนเทศที่บริหารงานอุตสาหกรรม เมื่อก่อนใช้เลขานุการหรือว่า Admin Accounting ประมาณ 400 คน ในการบริหารจัดการออเดอร์ รับออเดอร์เข้ามา แล้วดูว่าออเดอร์นี้ต้องใช้ component อะไรบ้าง แล้วก็ส่งออกไปที่ฝ่ายจัดซื้อ แต่ทันทีที่มีการใช่งานระบบ เหลือ 4 คน โดยเกิดขึ้นประมาณปี 2010 ถัดมาหลายๆคน เข้าใจว่า เด็กที่เรียนวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์หรืออะไรที่เกี่ยวข้อง จบมามักเป็นโปรแกรมเมอร์เพียงอย่างเดียวนั้นเป็นความคิดที่ค่อนข้างผิด เพราะคอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบที่ซับซ้อนมาก ยกตัวอย่างคนที่เป็นด้าน Infrastructure Network ก็ต้องดูว่า wifi วิ่งยังไง server ต้องอยู่ตรงไหน เรียกว่าอาชีพว่า Network Engineer และต้องมีอาชีพที่เรียกว่า System Admin เพื่อ maintain ระบบไม่ให้ล่ม โดยส่วนใหญ่จะซื้อ ERP (Enterprise resource planning) เป็น software ไปติดตั้ง เพื่อดูว่าองค์กรต้องบริหารจัดการทรัพยากรอย่างไร เมื่อก่อนเราตั้งงบกันด้วยกระดาษ แต่ในองค์กรใหญ่ๆ ตั้งงบด้วยโปรแกรมแทนกระดาษ โดยเมื่อเราหักลบกลบยอดแล้วจะรู้ทันที โดยหากคนระดับผู้บริหารอยากรู้ว่า งบในปีนี้เหลือเท่าไหร่ เราก็ไปถามเจ้าหน้าที่ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ตอบกลับมาว่า รอสักครู่นะครับ แล้วก็รอประมาณ 2 เดือน ทำให้พลาดโอกาสเพราะเขียน proposal ไม่ทันแล้ว โดยนั่นเป็นเรื่องปกติ ทีนี้พอมีระบบข้อมูลพวกนี้ ทำให้เริ่มมีโปรแกรมเริ่มเข้ามาทำเว็บ แอปพลิเคชัน แล้วท้ายที่สุด เมื่อมีข้อมูล (data) เข้ามา ทำให้เริ่มเกิดเป็น Data Science โดย data จะเกิดเป็น knowlage ได้ยังไง ธุรกิจเราแนวโน้มปีหน้าจะเป็นอย่างไร มี fact อะไรบางอย่างในข้อมูลไหม หรือเราจะทำอย่างไรดีในปีหน้า เพื่อเพิ่มยอดขาย เป็นต้น โดยขอยกตัวอย่างเป็นบริษัท พนัส ที่ดำเนินธุรกิจด้วยการผลิตรถพ่วง ในจังหวัดชลบุรี โดยมีรถหลายประเภท อย่างที่เขาเริ่มทำก็คือ รถ GSE (Ground service equipment) ก็คือ รถดันเครื่องบิน ซึ่งเมื่อก่อนเป็นบริษัทของประเทศออสเตรเลีย แต่ถูก take over ด้วยพนัส โดยการผลิตรถ 1 คัน ใช้ส่วนประกอบ (component) ประมาณหลักหมื่นชิ้น ที่มี อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ Control ต่างๆ เต็มไปหมด แล้วระยะเวลาในการรวบรวมของเพื่อนำมาประกอบ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ในการหาของเพียงอย่างเดียวและดูว่าจะหาของจากไหน โดยทุกอย่างบริหรจัดการด้วยโทรศัพท์ โปรแกรม Excel และกระดาษล้วนๆเลย แล้วปัญหาก็คือ ถ้าเราแข่งขันกันแบบนี้ เราไม่มีทางแข่งขันกับได้เลย ในทุกวันนี้จีนมี AI automated factory เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราคงเป็นประเทศแข่งขันไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเราไม่ปรับ IT โดยก็เป็นความฝันของผมว่า ประเทศไทยจะเปลี่ยนได้ จากเดิมที่เป็นประเทศค้าขาย สามารถเปลี่ยนเป็นประเทศผลิต ปัจจุบันเราเข้าไปช่วยกระทรวงต่างๆ เรื่องรวบรวมข้อมูล และเมื่อวานมีน้องคนหนึ่งชื่อว่าน้องบอส เรียนโรงเรียน chewberry แล้วก็ไปเรียนที่ Newyork university แล้วเขาก็โทรมาถามว่า อ.มด ปีหน้าจะมีหลักสูตรใหม่เปิดขึ้น คือ หลักสูตร Data Science แล้วคนสอนเขาสอน AI สอนไม่รู้เรื่องเลย คนสอนชื่อ ยานลากูล ปัจจุบันเป็น ship engineer อยู่ facebook ดูเรื่อง Data science ทำยังไงให้คนติด Facebook แล้วถามบอสกลับไปว่า ทำไมไม่เรียน คือเรียนไม่รู้เรื่อง ซึ่งมันมี 2 ปัญหาคือ นักเรียนไม่เข้าใจอาจารย์ และอาจารย์ไม่ตั้งใจสอนนักเรียน โดยให้บอสมองอนาคต ถ้าเรียนจบจาก ยานลากูล ได้ไป internship ที่ Google แล้วกลับมาทำงานที่ไทย เค้าสามารถตั้งบริษัทขึ้นมาแล้วมี connection มโหฬารเลย แล้วสุดท้ายบอกให้น้องบอส take course ไป

โดยเพื่อให้ทุกคนเห็นว่า ทำไมเราต้องใส่ใจ วิทยาการคอมพิวเตอร์ โดยเมื่อก่อนเขาใส่ใจว่าอาชีพวิศวกร อาชีพหมอนั้นสำคัญ ในปัจจุบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา มีนักเรียนประมาณ 200,000 คนทั้งประเทศ มีประมาณ 10,000 คน ที่เรียนเกี่ยวกับ IT และประมาณ 1,000 คนที่จบไปแล้วอยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับที่กล่าวไปด้าน Programming ด้าน Network admin ซึ่ง 1,000 คน จากแสนคน นั่นคือภาระที่จะขยับได้อย่างไร ถ้าพวกเราไม่ผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างจริงจัง ทีนี้เลยมองว่า จุดสำคัญคืออาจารย์แนะแนว ถ้าอาจารย์แนะแนวนักเรียนได้ว่า วิทยาการคอมพิวเตอร์มีอนาคตแบบไหน มีเงินเดือนเท่าไหร่ โดยเมื่อดูแล้วเงินเดือนของนักเรียนได้มากกว่าเงินเดือนของอาจารย์ผู้สอนอีก ซึ่งมันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ลูกศิษย์เราต้องเจริญเติบโตดีกว่าเรา และก็เป็นความหวังฝากไว้สำหรับผู้อำนวยการต่างๆ ด้วยครับ